วัด ชูโอะ (Chuo Temple)

ค่าผ่านประตูฟรี
คอร์สเซน ¥500
เวลาเปิดทำการ9:00 - 17:00
วันหยุดทำการ
ติดต่อสอบถาม011-512-7321

ข้อมูลเพิ่มเติมการเรียนเซนเริ่มจากเวลา 9โมงเช้าไปจนถึงเที่ยงวัน
เปิดการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
ตำแหน่งที่ตั้ง2 Chome-1 Minami 6 Jonishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido Prefecture 064-0806

วัดชูโอะ  เป็นวัดศาสนาพุทธที่ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร ในย่านซูซูกิโนะ (ย่านบรรเทิง) เป็นวัดที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก เมื่อเทียบกับวัดที่มีอยู่ในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้ว แต่วัดชูโอะ ก็ถือได้ว่าเป็นวัดที่ดีสำหรับการเข้าไปเยี่ยมชมและสัมผัสวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งพิเศษของวัดนี้ก็คงหนีไม่พ้นการสร้างประตูทางเข้าด้วยการสลักไม้อย่างปราณีตงดงามของผู้รักษาพระพุทธเจ้า ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น โดยผู้รักษาประตูทางเข้าของวัดแห่งนี้มีชื่อว่า นิโอะ หรือ คองโกริกิชิ  โดยเป็นรูปแกะสลักของชายซึ่งมีรูปร่างใหญ่กำยำ ซึ่งก็คล้าย ๆกับวัดที่มีในประเทศญี่ปุ่นทั่วๆ ไป รวมถึงรูปแกะสลัก อะโยะ และ อันกิโยะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดและตายของทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง

อีกอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่แล้ว นั่นก็คือการเข้าคอร์สการฝึกอบรมการฝึกสมาธิ ซึ่งนั้นก็คือ การฝึกอบรม ซาเซน (zazen) ของชูโอจินั่นเอง ซึ่งเซนมีความหมายถึง ความเชื่อที่ว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับจิตใจที่บริสุทธ์ผ่องใส และมีความสามารถที่ใช้ชีวิตที่เปิดกว้างได้  ทางวัดเปิดโอกาศให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ต้องการเข้าชมวัดแห่งนี้ เข้าฟรีได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่หากท่านใดสนใจที่จะเรียน เซน(การนั่งสมาธิ)และการฝึกอบรมนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนท่านละ 500 เยน ซึ่งจะมีการเปิดชั้นเรียนให้ผู้ที่สนใจ ณ Temple Zazen Hall  โดยจะจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ซึ่งที่พิเศษกว่านั้นคือ พวกเขาจะมีการเสนอหลักสูตรซึ่งเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย โปรแกรมนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ไปจนถึงเที่ยงวัน   ว่าไปแล้วก็ไม่เสียหายอะไรที่จะลองเรียนหลักสูตรใหม่ ๆ เหล่านี้ ซึ่งนอกเหนือจากความผ่อนคลายที่จะได้รับแน่นอนแล้ว อาจจะได้ทั้งเพื่อนใหม่ ประสบการณ์ใหม่ และได้เรียนรู้วัฒนธรรม ประเพนีที่น่าสนใจของคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ซึ่งจะนำเอาช่วงเวลาต่างๆ ของการเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าวมาเสนออย่างคร่าว ๆ ดังนี้
ขั้นเริ่มต้น

8:20 นการสอนซาเซ็น (สำหรับผู้มาใหม่)
9:00 นการเริ่มต้นของซาเซ็น
9:30 นการเดินสมาธิคินฮิน
9:35 นฟังการพูดธรรมมะไทโชะ

ขั้นที่สอง
10:05 นการเดินสมาธิ คินฮิน
10:10 นการสวดมนต์ ฟูกานซาเซนกิ
10:20 น
ช่วงเวลาทำความสะอาดห้องซาเซ็น
11:10 นการดื่มชาและการอภิปราย
11:50 นเวลาการเรียน ซาเซนไกสิ้นสุดลง

ห้างสรรพสินค้า ไดมารุ (Daimaru Department Store)

ค่าผ่านประตู-
เวลาเปิดทำการ ร้านค้า : 10:00 - 21:00
ร้านอาหาร : 11:00 - 23:00
วันหยุดทำการ-
ติดต่อสอบถาม-
ข้อมูลเพิ่มเติม-
ตำแหน่งที่ตั้ง4 Chome-7 Kita 5 Jōnishi, Chūō-ku, Sapporo-shi, Hokkaidō 060-0005, Japan
ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของสถานีซัปโปโร

ห้างสรรพสินค้า Dimaru เป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมากทุกๆ วัน ซึ่งที่นี่มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ดัง  ทั้งเสื้อผ้า ของแต่งบ้าน เครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำ รวมถึงร้านอาหารที่มีบริการหลากหลายสไตส์ ไม่ว่าจะเป็นสไตส์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นเอง อเมริกัน อิตาเลียน จีน หรือแม้ว่าร้านสไตล์ไทย ๆ ที่สามารถเลือกสรรค์ได้ดังใจ  ด้วยทำเลที่ตั้งที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินซัปโปโรและเจอาร์ทาวเวอร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองซัปโปโร  ห้างสรรพสินค้า Dimaru มีลักษณะเป็นตึกสูงขนาดใหญ่  8 ชั้น  รวมชั้นใต้ดินอีก 4 ชั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ของลานจอดรถขนาดใหญ่ โดยทุกชั้นของห้างจะมี wifi ให้ใช้กันฟรี ๆ รวมถึงบริการล่ามภาษาจีน เคารฺ์เตอร์ปะชาสัมพันธ์ ที่สามารถสอบถามข้อมูล รวมถึงป้ายบอกทางทั้งที่เป็นภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ ไทย และจีน ไว้บริการ  โดยลูกค้าสามารถช๊อปปิ้งกันได้อย่างสบายใจ เพราะที่นี่รับบัตรเครดิตทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น China Union Pay, VISA, JCB, Master, Amex และ Diners ซึ่งได้รับการยอมรับแล้วทั้งสิ้น 

ข้อมูลสินค้าแบ่งตามชั้นของห้างสรรพสินค้า Daimaru 

ชั้นที่ 8   ที่นี่จะประกอบไปด้วยร้านอาหารหลากหลายสไตส์ , ศูนย์โปเกมอน ซัปโปโร ,เครื่องเขียน,
   เครื่องใช้สำนักงาน, แว่นตา, และหอศิลป์

ชั้นที่7   ชั้นนี้ได้รวมรวมสินค้า เครื่องครัวญี่ปุ่นและเครื่องใช้ไฟฟ้า ,เครื่องครัวศิลปะและหัตถกรรมไลฟ์สไตส์ ญี่ปุ่น, ของตกแต่งภายใน,ชุดกิโมโน และเคาร์เตอร์คืนภาษี ไว้บริการด้วย 

ชั้นที่ 6  ชั้นนี้ถือได้ว่าเป็นชั้นที่เอาใจท่านสุภาพบุรษ โดยมีสินค้าทั้ง เสื้อผ้าสุภาพบุรุษ, รองเท้า,ของใช้,ตู้ ATM สินค้าเบ็ดเตล็ด, กระเป๋าสุภาพบุรุษ, ชุดกีฬากอล์ฟ, ชุดเดินทาง ให้เลือกสรรค์ได้หลากหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ชั้นนำทั้งสิ้น 

ชั้นที่ 5   ชั้นนี้ได้รวบรวมสินค้าหลากหลายของสุภาพสตรีเช่นกันไม่ว่าจะเป็น เครื่องประดับ,นาฬิกา,
ชุดสุภาพสุตรี

ชั้นที่ 4   ชุดชั้นในสตรีชุดเด็กทารกและเด็ก,ของเล่นเด็ก 

ชั้นที่ 3   ชุดเสื้อผ้าสุภาพสตรี ที่ได้รวบรวมไว้หลากหลายแบรนด์ดัง รวมถึงยังมีห้องสวดมนต์ไว้บริการด้วย 

ชั้นที่ 2   รองเท้าสุภาพสตรี, กระเป๋าถือ, เสื้อผ้าและชุดสุภาพสตรี  

ชั้นที่ 1    สินค้าประเภทบูติกพิเศษ, เครื่องสำอางค์, อุปกรณ์เสริม, เสื้อผ้าสตรี เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รวมไป ถึง ห้องรับฝากของ ไว้บริการเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า 

ชั้น B1 ประกอบไปด้วย ร้านอาหาร ของฝากและของที่ระลึกของเมืองซัปโปโร, ของใช้ในครัวเรือน,ขนมญี่ปุ่น   สุราญี่ปุ่นและเบียร์ตะวันตกต่างๆ 

B2 -B4   ลานจอดรถ 

ที่นี่ได้รวมร้านอาหารสไตส์ญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการเป็นเวลานานกว่าปกติและปิดทำการในเวลา 22.00น.ของทุกวัน โดยลูกค้าสามารถเลือกรับประทานอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สาหร่าย, ปลาไหล, ซูซิ, โดโมนียากิ,
เทมปูระ, ยากิโตริ , เนื้อย่าง ,และร้านอาหารอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถพบได้ที่นี่
รวมถึงร้านอาหารสไตส์อิตาเลียน หรือแม้แต่ร้านอาหารปุฟเฟ๋ที่เป็นที่นิยมกันอีกมากมายนับไม่ถ้วน 

เคาร์เตอร์ภาษี Tax counter

เคาร์เตอร์ฟรีภาษีจะตั้งอยู่บนชั้นที่ 7 ของห้าง โดยที่นี่จะบริการสำหรับลูกค้าที่ทำรายการซื้อสินค้าภายในห้างในวันนั้นเกิน 5400 เยนขึ้นไป โดยจะมีการคืนเงินภาษีให้กับลูกค้าเป็นอัตรา6.9% ทั้งนี้ลูกค้าจะต้องนำใบเสร็จ และพาสปอร์ตไปยื่นพร้อมกับการขอคืนภาษีที่เคาร์เตอร์ได้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าบริการที่เป็นมิตรรอที่จะให้บริการที่นี่นั่นเอง 

ร้านสเต็กซัปโปโรโบน (Sapporo Bone)

Sapporo Bone

ราคา¥3000 - ¥5000
เวลาเปิดทำการ11:00 - 15:00 & 17:00 - เที่ยงคืน
วันหยุดทำการ-
ติดต่อสอบถามhttp://sapporo-bone.com/
050-5589-2078
ข้อมูลเพิ่มเติมพื้นที่ขนาดเล็กที่สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ1ถึง4ท่าน ต่อโต๊ะ
ตำแหน่งที่ตั้ง〒060-0062 Hokkaidō, Sapporo-shi, Chūō-ku, Minami 2 Jōnishi, 5 Chome, 南2条西5丁目11番3号

ที่ตั้งของ Tanuki Koji Arcade


สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทานสเต็กเเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงการจิบไวท์รสชาติดีทั้งไวท์แดง และไวท์ขาว ที่ได้รวบรวมไว้จากประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี, ฝรั่งเศส, แอฟริกาใต้, ชิลี, อาร์เจนตินา, อเมริกัน, นิวซีแลนด์และไวน์ออสเตรเลีย  ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเมนูเครื่องดื่มที่ลูกค้าสามารถเลือกสรรค์  ดื่มด่ำในบรรยากาศชิว ๆแล้วละก็ คุณจะต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาทดลองชิมรสชาติของเนื้อสเต็กที่ฉ่ำ และไวท์ และอร่อยที่สุดในเมืองซัปโปโร และที่นี่ก็คือ ร้านอาหารสเต็ก ที่ชื่อว่า Sapporo Bone  ร้านอาหารแห่งนี้เปิดขึ้นเป็นสเต็กเฮ้าส์เล็ก ๆ ตรงหัวมุมถนนที่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งซึ่งรวมร้านค้าประเภทต่างๆ ไว้ จนทำให้บริเวณนี้คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ มารวมกัน  ร้าน Sapporo Bone เปิดกิจการเมื่อ ปี  2558  ร้านมีพื้นที่ไม่กว้างมาก มีลักษณะเป็น 2 ชั้น บรรจุลูกค้าได้ประมาณ 42 คน ถึงแม้ว่าจะเปิดกิจการมาได้ไม่นานมากนัก แต่นั่นก็เถอะจำนวนลูกค้าของที่นี่ก็คับคั่งแน่นร้านเกือบทุกวัน นั่นเป็นเพราะรสชาติของสเต็กที่นี่มีความพิเศษกว่าที่อื่น ๆ ด้วยการปรุงและหมักสเต็กให้ได้ที่ด้วยเครื่องปรุงพิเศษ รวมถึงการย่างสเต็ก

สไตส์การย่างบาร์บีคิวที่มีความชำนาญของพ่อครัวที่นี่ ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาในร้านสามารถชื่นชมการย่างสเต็กได้อย่างสบายใจ เพราะห้องครัวของที่นี่ออกแบบให้เป็นห้องครัวแบบเปิด  เพื่อให้ลูกค้าได้ดูการย่างสเต็กแบบเพลิน ๆ ในขณะที่นั่งทานสเต็ก และจิบไวท์อย่างชิว ๆ ไปนั่นเอง 
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถสั่งสเต็กต่าง ๆ ได้ตามความชอบ ซึ่งเมนูก็มีให้เลือกตั้งแต่ เนื้อวัว. เนื้อหมู ,เนื้อไก่, เนื้อแกะ รวมถึงเมนูสลัด และอื่น ๆ อีกหลากหลายเมนู สำหรับที่นี่ ทางร้านยังไม่มีเมนูเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะหลาย ๆ เมนู ลูกค้าสามารถดูได้จากภาพบนหน้าเมนูอาหารที่ถูกออกแบบมาให้แผ่ออกได้เป็นแผ่นใหญ่เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกเมนูต่าง ๆ ตามความชอบของแต่ละคน 

lamb & beef with grated wasabi!


นอกเหนือจากไวท์รสเลิส การบริการที่ดีและแสนเป็นมิตร  รวมถึงรสชาติอาหารที่ดีเยี่ยมแล้ว  ที่นี่ยังพิเศษกว่าอีก ด้วยเมนู “ทีโบนสเต็ก” สำหรับคู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนที่มากัน 3 ถึง 5 คน เพราะจานนี้ลูกค้าสามารถเลือกสเต็กตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อ  ไก่ หมูหรือ เนื้อแกะ ที่สามารถเสริฟ พร้อมกันบนจานเสริฟจานใหญ่ ที่พร้อมสำหรับให้ทุกคนได้เลือกชิมรสชาติกันจุใจ  และที่พิเศษของเมนูนี้อีกอย่าง  นั่นก็คือ การเพิ่มวาซาบิสีขาว ที่ขูดเป็นเส้นเล็กๆ ทานพร้อมกับสเต็กชิ้นพอดีคำ ซึ่งเพิ่มรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของคนญี่ปุ่นเข้าไปอีก สำหรับลูกค้าบางคนที่ไม่ชอบสเต็กที่ยังเนื่้อฉ่ำอยู่ ทางร้านยังมีบริการ ถ่านร้อน ๆ ลักษณะคล้ายจานที่ลูกค้าสามารถนำสเต็กวางลงไปเพื่อให้สเต็กสุกเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย แล้วจะรออะไรในเมื่อมีร้านสเต็กที่ดีเลิศขนาดนี้  ไปดินเนอร์กับคนพิเศษ กับเพื่อนรัก กับครอบครัวกัน  ที่ Sapporo Bone กันดีกว่า !

ร้าน H&M

ราคา-
เวลาเปิดทำการ10:30 - 20:00
วันหยุดทำการ-
ติดต่อสอบถาม0120-866-201
ข้อมูลเพิ่มเติม
ตำแหน่งที่ตั้ง Sapporo-shi, Chūō-ku, Minami 1 Jōnishi, 3 Chome, 南1条西3丁目LA GALLERIA

2 minute walk from Odori Station

ไปซ๊อปปิ้งกันดีกว่า!   ว่าแล้วก็ถึงเวลาไปช๊อปปิ้งเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ใครก็ช๊อปได้แบบสบายกระเป๋ากัน  ที่ร้าน H&M
ร้าน H&M เป็นร้านค้าประเภทแฟชั่นที่เป็นที่นิยมมานานและเป็นที่รู้จักกันของลูกค้าทั่วโลก ซึ่งมีสินค้าหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า โดยมีสินค้าสำหรับเด็ก สุภาพสตรี และสุภาพบรุษให้เลือกสรรค์มากมายในราคาที่แสนย่อมเยาว์ ซึ่งทั้งนี้ร้าน H&M มีไม่กี่แห่งเท่านั่นในประเทศญี่ปุ่น  จนกระทั้งปี 2556 ร้าน H&M ได้เข้ามาเปิดสาขาอีกแห่งหนึ่งในเมืองซัปโปโร และแน่นอนด้วยเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างดีไซน์อย่างเรียบง่ายและราคาที่แสนย่อมเยาว์ ทำให้ร้านแห่งนี้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าชาวญี่ปุ่นหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวไทยที่ไปเยี่ยมเยี่ยนที่นี่แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องซื้อติดไม้ติดมือกันอย่างแน่นอนด้วยราคาที่ถูกกว่ามากเมื่อเทียบเท่ากับราคาที่ร้านH&Mในประเทศไทย   ร้านค้าสามารถหาได้ไม่ยากเลย   โดยเดินทางจากสถานี โอโดริด้วยระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ก็จะเจอกับป้ายร้านค้า H&M ขนาดใหญ่หน้าตึก 4 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็ได้แบ่งประเภทสินค้า ทั้งของเด็ก ผู้ใหญ่ ที่พิเศษของร้านที่ลูกค้ามาที่นี่แล้ว ไม่ควรพลาดกับการไปเยี่ยมเยียนชั้นใต้ดินของร้าน เพราะทางร้านจะมีสินค้าลดราคาจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อโค๊ต กางเกง กระโปรง ไปจนถึงเสื้อผ้าลำลอง กระเป๋าและรองเท้ารวมถึงสินค้าอื่น ๆ ที่รับรองว่าราคาถูกมาก   และอย่าได้แปลกใจ เพราะสินค้าบางอย่างจะลดราคาจาก 5000 เยน เหลือแค่ 300 เยน ได้ที่นี่ รับรองว่ามาที่นี่แล้วไม่เสียเที่ยวสำหรับนักช๊อปที่จะซื้่อเป็นของฝาก ใส่เอง หรือจะซื้อมาขายเอากำไรต่อก็ไม่เสียหายอย่างแน่นอน   หลังจากช๊อปปิ้งกันหนำใจแล้ว ใกล้ๆ ยังมีร้านกาแฟ ให้นั่งพักผ่อน คลายความเมื่อสาขายล้าอย่างชิว ๆ ได้อีกหลาย ๆ แห่งรอบรอบ   ว่าแล้วจะรออะไร ไปช๊อปปิ้งที่ร้าน H&M ซัปโปโรชิกันเถอะ !!

ซุปแกงกะหรี่ซามูไร (Samurai Soup Curry)

ราคา¥1200 - ¥1500
เวลาเปิดทำการ11:30 - 15:00 & 17:30 - 23:00
วันหยุดทำการ-
ติดต่อสอบถามhttp://samurai-curry.com/
011-272-3671
ข้อมูลเพิ่มเติม เมนูภาษาอังกฤษ
ตำแหน่งที่ตั้ง 〒060-0063 Hokkaidō, Sapporo-shi, Chūō-ku, Minami 3 Jōnishi, 6 Chome, 南3条西6丁目1-3 ティアラ36

ซุปแกงกะหรี่ซามูไร เป็นหนึ่งในอาหารในประเภทซุปแกงเผ็ดที่มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมและขึ้นชื่อที่สุดในเมืองซัปโปโร

ด้วยอากาศของเมืองที่มีช่วงหน้าหนาวที่ยาวนานการรับประทานซุปแกงเผ็ดจึงค่อนข้างเป็นที่นิยมของเมืองนี้ การมาเยี่ยมเยียนที่นี่จึงไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองรสชาติของซุปแกงกะหรี่ซามูไรสักครั้ง ถึงจะถือว่าไม่เสียเที่ยวในการมาเยี่ยมเยียนเมืองนี้เป็นอย่างยิ่ง

โดยสามารถหาร้านซุปแกงกะหรี่ซามูไรได้ไม่ยากนัก เพราะร้านมีมากถึง 4 แห่ง ในเมืองซัปโปโร หลักๆ ของทางร้านที่เน้นอย่างมากและนั่นก็นำมาซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้ลูกค้าของที่นี่มาชิมรสชาติกันอย่างไม่ขาดสาย มีอยู่ 5 หลักการใหญ่ ๆ ซึ่งนั่นคือ  ซุป ข้าว  ผัก  บรรยากาศ และการบริการลูกค้าที่ดี และเป็นกันเอง 

อร่อย!


สิ่งพิเศษที่ทำให้ซุปแกงกะหรี่ซามูไรเป็นจานซุปที่พิเศษกว่าที่อื่น ๆ นั่นก็คือ ซุปแกงกะหรี่ของที่นี่จะมีกลิ่นหอมของผงกะหรี่ที่ผสมเข้ากับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ เคี่ยวจนง่วนในน้ำชุปที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ ทั้งแบบน้ำชุปเข้มข้นแบบธรรมดา และน้ำชุปเข้มข้นแบบเพิ่มรสชาติความหอม หวาน มัน ของกระทิสดเข้าไป  ซึ่งในแต่ละเมนูมีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง ไก่ หมู ทะเล เห็ดต่าง ๆ รวมถึงผักต่าง ๆ ที่สามารถเลือกได้ถึง 20 ชนิด ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดล้วนแล้วแต่หาได้ตามฤดูกาลและปลูกในเมืองฮ๊อกไกโดทั้งสิ้น  ทั้งนี้ลูกค้าที่ชื่นชอบความเผ็ดร้อน ยังสามารถเพิ่มระดับความเผ็ดร้อนได้ตามชอบ โดยสามารถเลือกระดับได้ถึง ระดับ 10 ขนาดของข้าวที่มาควบคู่กับซุปนั่นก็เช่นกัน ลูกค้าสามารถเพิ่มปริมาณได้  ซึ่งตัวเลือกทั้งหมดนี้จำเป็นจะต้องเพิ่มเงินประมาณ 0-300 เยน ซึ่งจะมาพร้อมกับใบเก็บเงิน  แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นการลงทุนที่รับรองว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว

[the_ad id=’4264′]

Samurai soup curry เป็นร้านที่ไม่ใหญ่มากนัก คล้าย ๆ กับร้านอาหารทั่ว ๆ ไปในเมือง  ที่เหมาะกับการพบปะกับเพื่อนฝูงกลุ่มเล็กๆ หรือครอบครัวในมื้อกลางวัน รวมถึงมื้อค่ำ โดยช่วงเย็น ๆ อาจจะต้องรอประมาณ 5-30 นาที เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทางร้านมีลูกค้ามากที่สุดเป็นประจำทุกวัน แต่เชื่อเถอะ มันคุ้มค่ามากในการรอคอยที่จะได้ลิ้มลองรสชาติที่สุดอร่อย กับบรรยาการที่แสนอบอุ่นรวมถึงบริการที่แสนประทับใจ และเป็นกันเองของพนักงานทุกคนที่นี่   และนี่คือเหตุผลที่ว่า ซุปแกงกะหรี่ซามูไรถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นซุปแกงกะหรี่ที่ดีที่สุดในเมืองซัปโปโร ที่มาที่นี่แล้วต้องไม่ควรพลาดที่จะได้ลิ้มลองรสชาติ

ร้านอาหาร (Beef Impact Restaurant)

ราคา¥1000 - ¥2000
เวลาเปิดทำการ 11:30 - 22:30
วันหยุดทำการ-
ติดต่อสอบถาม011 211 8554
ข้อมูลเพิ่มเติมเมนูภาษาอังกฤษ
ตำแหน่งที่ตั้ง 4-17-1 Minami 3 jo Nishi. Chuo-ku Tanuki Koji Arcade 4

เนื้อ คือ อาหารจานโปรดของคุณใช่มั้ย?  ถ้าคุณตอบว่าใช่ คุณจะต้องไม่พลาดที่แวะร้านนี้ นั่นก็คือ Beef Impact Restaurant !! เพราะที่นี่คือที่สุดของจานสเต็กเนื้อ ที่คุณจะต้องร้องว้าว แค่คำแรกที่คุณได้ลิ้มลองทานสเต็กเนื้อฉ่ำ รสชาติดีเยี่ยมจากฝืมือของพ่อครัวผู้มีความชำนาญในการปรุงสเต็ก ณ ร้านอาหารแห่งนี้ ด้วยความที่เป็นร้านอาหารที่ทำอาหารประเภทเนื้อเพียงอย่างเดียว ที่นี่จึงพิถีพิถันในเรื่องของเนื้อที่จะต้องมีรสชาติดี ซึ่งที่นี่มีเนื้อหลายประเภทที่คุณลูกค้าสามารถเลือกทานได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อออสเตรเลียที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อที่อร่อยสำหรับการทำสเต็กอยู่แล้ว  เนื้อสเต็กจากเมริกาที่มีรสชาติไม่แพ้กัน แต่ในราคาที่ยอมเยาว์กว่าเนื้อสเต็กจากออสเตรเลีย และที่พิเศษที่สุดสำหรับลูกค้าที่สามารถจ่ายได้สูงกว่าจะต้องลอง นั่นก็คือ สเต็กเนื้อนาจิจู Wagyu  ซึ่งเป็นเนื้อวัวของประเทศญี่ปุ่นที่ลือกันว่ารสชาติมีความอร่อยเลิศที่คนที่หลงรักสเต็กจะต้องลอง โดยจะมีขนาดของสเต็กตั้งแต่ 200 กรัม จนถึง  600 กรัม  และราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทสเต็กที่คุณสั่งซื้อ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะทำให้รสชาติของสเต็กทุกจานที่คุณสั่งยิ่งอร่อยเพิ่มอีกเท่าตัวนั่นก็คือ ไวน์แดงและไวน์ขาวรสชาติดีจากทั่วโลกซึ่งสามารถเลือกได้ตามชอบอยู่บนเมนูเบี้องหน้าของคุณ

Beef Impact

Value for your buck. Medium rare


และนอกจากนั้น ถ้าคุณยังไม่อิ่ม และมีเงินเหลือเฟือในกระเป๋า  ที่นี่ยังมีเมนูพิเศษที่มิกสไตส์ตะวันตกกับญีุ่ปุ่นได้อย่างลงตัวที่คุณควรลอง อาจจะเป็นมื้อกลางวันที่ทำให้คุณอิ่มสบาย ๆ พร้อมเดินท่องเที่ยวหรือช๊อปปิ้งต่อไปอีกหลาย ๆ ที่ ในราคาที่แสนย่อมเยาว์ แค่ 1000 เยนเท่านั้น สเต็กจานนี้คุณจะได้อร่อยแบบไม่ธรรมดากับสไตส์

[the_ad id=’4264′]



style=”display:block; background-color:#FFF;max-height:80px;padding:10px 0px 10px 0px;”
data-ad-client=”ca-pub-4522204253956955″
data-ad-slot=”7069296301″
data-ad-format=”link”>

ญี่ปุ่นที่ได้เกริ่นนำไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะมีสเต็กหนาเนื้อฉ่ำพร้อมโรยกระเทียมเจียวกลิ่นหอมพอดีทานอยู่บนจานใบใหญ่ ซึ่งจะเสริฟพร้อมกับข้าวโพด หอมหัวใหญ่ ข้าวญี่ปุ่น และซุปมิโซะที่เป็นซุปขึ้นชื่นของญี่ปุ่น  โดยคุณสามารถเลือกทานสเต็กของคุณทั้งแบบตามใจชอบ ไม่ว่าจะสุกมาก สุกน้อย หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อครัวที่เชียวชาญเป็นผู้จัดการปรุงสเต็กตามแบบที่คุณต้องการสักครู่ และถ้ายังไม่จุใจ ที่นี่ยังมีแกงกะหรี่เนื้อ ที่ปรุงเนื้อสเต็กแท้ ๆ ในน้ำซอสแกงกะหรี่ที่มีความเผ็ดพอดิบพอดี เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ขนาดเล็กอีก 1 จาน ในราคา 300 เยน ซึ่งไม่ลองถือว่ามาไม่ถึง ร้านอาหารที่ชื่อ Beef Impact Restaurant !! 

สำหรับแกงกะหรี่ ที่นี่ยังมีตัวเลือกให้ลูกค้าท่านพิเศษอย่างคุณได้เลือกกันอีก 3 ถึง 4 ตัวเลือกที่คุณสามารถเลือกทานกับซอสแกงกะหรี่เผ็ด ๆ ของคุณ โดยมีเมนูสุดพิเศษนั่นก็คือเนื้อสเต็กซี่โครงอ่อน (Tokachi Saibi Beef Rib Steak)ซึ่งความพิเศษของเนื้อ Tokachi ก็คือ เป็นวัวเนื้อที่เลี้ยงอยู่่ทางภาคกลางของฮ๊อกไกโด และเป็นวัวที่ได้รับการเลี้ยงโดยการให้อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งทำให้สเต็กของที่นี่ได้รับรางวัลและการบันทึกว่าเป็นสเต็กที่ดีเยี่ยม  และสุดท้ายที่ขอแนะนำก็คือเนื้อสเต็ก Black Black ซึ่งเป็นพันธ์วัวเนื่้อที่พบในโกเบ  เรียกว่าเนื้อโคเบะ เป็นเนื้อที่มีราคาแพงในญี่ปุ่น และไม่ค่อยมีขายในร้านอาหารในประเทศอื่น ๆ  ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7000  เยน ซึ่งเป็นราคาสำหรับเนื้อสเต็กขนาด 200 กรัม แต่นี่คือสุดยอดของเนื้อสเต็กชั้นดีที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่งถ้าคุณคือนักทานสเต็กตัวจริง