หมวดหมู่: การเที่ยวชมสถานที่
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (Otaru Aquarium)
ค่าผ่านประตู | เด็ก ๆ ¥200 นักเรียนมัธยมปลาย ¥500 ผู้ใหญ่ ¥1400 |
เวลาเปิดทำการ | วันจันทร์ – วันเสาร์ 9:00 – 17:00 |
วันหยุดทำการ | อาทิตย์ |
ติดต่อสอบถาม | 0134-33-1400 |
ข้อมูลเพิ่มเติม | - |
ตำแหน่งที่ตั้ง | 3 Chome-303 Shukutsu, Otaru, Hokkaido Prefecture 047-0047, Japan เดินทางโดยรถไฟจากสถานีซัปโปโรถึงสถานีโอตารุใช้เวลา 40 นาที หลังจากนั้นเดินทางต่อโดยรสบัสใช้เวลาอีก 20 นาที ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ |
โอตารุเป็นเมืองท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ โดยอยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรโดยใช้เวลาการเดินทางโดยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองโอตารุเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ อาหารทะเล การเป๋ากระจก และลำคลองที่มีความสวยงาม อีกทั้งเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดฮอกไกโด บางส่วนของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุเป็นตึกเก่าแก่ซึ่งสร้างมาอย่างยาวนาน โดยบางพื้นที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี 2502
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ได้รวบรวมสัตว์น้ำทะเลหลายชนิดที่หาดูได้ยากเป็นจำนวนมากถึง 5000 ชนิด จาก 250 สายพันธุ์ ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดของที่นี่ นั่นคือการได้ชมปลาสายพันธุ์หายากของจังหวัดฮอกไกโดหรือแม้แต่สัตว์น้ำหายากที่อาศัยอยู่ในแถบขั่วโลกเหนือ รวมถึงนักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงที่แสนรู้ของปลาโลมา ซึ่งมีการจัดแสดงเป็นรอบ ๆ ได้ที่นี่ที่เดียวในประเทศญีปุ่นอีกด้วย
ในแต่ละวันของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ จะมีการแสดงโชว์ความแสนรู้ของเหล่าสัตว์น้อยน่ารักเหล่านี้เกือบทั้งวัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบ ๆ พร้อมๆ กับใบนำทางท่องเที่ยวซึ่งสามารถหยิบได้ที่เคาร์เตอร์ซื้อตั๋วเข้าชม โดยทั้งหมดจะแสดงเวลาในการโชว์รอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์ความแสนรู้ของนกแพนกวิน การแสดงของปลาโลมา สิงโตทะเล แมวน้ำ และ สัตว์แสนรู้อื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะมีวิทยาการที่มีความรู้คอยบรรยายความน่ารักและความแสนรู้ของพวกมันอย่างใกล้ชิด โดยแต่ละรอบจะมีการแสดงที่ใช้เวลายาวนานพอสมควร ซึ่งเวลาทั้งหมดของการโชว์จะเทียบเท่ากับการเดินชมไปรอบพิพิธภัณฑ์เกือบทั้งวัน ซึ่งทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปท่องเที่ยวดูสัตว์น้ำน่ารักเหล่านี้ ควรจะเดินทางไปตั้งแต่เช้า เพื่อไม่ให้พลาดการโชว์ที่แสนพิเศษ
The Penguin Walk (การแสดงโชว์ของนกแพนกวิน)
การเดินโชว์ของนกแพนกวิน ถือได้ว่าเป็นอะไรที่เรียกร้องความสนใจของนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมความน่ารักของพวกมันอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว
การแสดงโชว์ของช้างน้ำ (Walrus Feeding)
การแสดงโชว์อีกอย่างที่เรียกความสนใจได้ไม่แพ้กัน นั่นคือการให้อาหารครอบครัวช้างน้ำขนาดไหญ่ ที่มีพ่อ แม่ และลูกช้างน้ำ ซึ่งลูกช้างน้ำเป็นวัยกำลังน่ารักและแสนซน ช้างน้ำตัวผู้และช้างน้ำตัวเมียคู่นี้จะน่าสนใจมากเพราะ สามารถเข้าใจภาษาพูดบางอย่างและทำตามคำสั่งของวิทยากรหรือผู้ฝึกสอนได้อีกด้วย โดยเมื่อช้างน้ำทั้งหมดกินอาหารจนอิ่มแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปคู่ผ่านกระจกที่สามารถมองเห็นเคี้ยวและลำตัวที่มีขนาดใหญ่เหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิดอีกเช่นกัน
การแสดงโชว์ของปลาโลมา (Dolphin Show)
ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสสัมผัสการแสดงโชว์ที่หาดูได้ยากจากปลาโลมากับผุู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์การกระโดดข้ามห่วงที่เรียกความเฮฮาเป็นอย่างมากจากผู้ชม และการโชว์อื่น ๆ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก นอกเหนือจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปชั้นล่างของสระขนาดใหญ่ ซึ่งมุมนี้ลูกค้าสามารถชื่นชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และดูการแหวกว่ายแล่นน้ำของปลาโลมาหลาย ๆ ตัวอย่างไกล้ชิดอีกด้วย
การแสดงโชว์ของสิงโตทะเล และแมวน้ำ Sea Lion&Seal show
จะเป็นการแสดงที่คล้าย ๆ กับการโชว์สัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ซื่อได้แก่ การโชว์การกระโดดน้ำจากที่สูง การนั่งบนเก้าอี้ และการปรบมือพร้อม ๆ กัน เป็นต้น
วิธีการเดินทาง: สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่ไม่มียานพานะเป็นของตนเอง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางง่ายๆและแสนสะดวกด้วยรถไฟฟ้าสาธารณะไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ โดยสามารถขึ้นรถไฟจากสถานีซัปโปโรตรงไปยังสถานีโอตารุได้เลย โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที ซึ่งสถานีโอตารุจะเป็นสาถานีสุดท้ายของขบวนรถไฟสายนี้ หลังจากนั้นจะมีรถบัสที่จะนำนักท่องเที่ยวทุกท่านไปยังพิพิธภัณฑ์ซึ่งรอรับลูกค้าอยู่เป็นประจำทุกวัน โดยทั้งนี้ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินเป็นเงินเยนเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย ใช้เวลาเดินทางชมเมืองนี้ข้างทางอย่างชิว ๆ ไปอีกประมาณ 20 นาทีก็จะถึงพิพิธภัณท์ที่กว้างขวาง และท้องทะเลสีครามอยู่เบื้องหน้า ที่สามารถสูดลมหายใจเอาบรรยากาศดี ๆ ได้ลึกๆ พร้อมกับเจ้าหน้าประจำพิพิธภัณฑ์ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ว่าแล้วรออะไรอีกละ พาลูกหลาน ครอบครัวและคนที่เรารัก ไปท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์โอตารุกันอีกแห่งเลยดีกว่า !!
สวนสาธารนะ นากาจิมะ (Nakajima Park )
สวนสาธารณะนากาจิมะแต่เดิมนั้นเคยเป็นลานไม้กว้าง ซึ่งเมื่อชาวบ้านหยุดใช้ลานไม้แล้ว ต่างก็มีความคิดเห็นว่าน่าจะสร้างเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้เป็นที่ผักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านในแถบนี้ สวนสาธารณะนากาจิมะ จึงได้เกิดขึ้นนั่นเอง โดยมีการสร้างสวนแห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ.2430 ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแกอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดฮอกไกโด โดยมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 21 เฮกตาร์ นากาจิมะเป็นสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองซัปโปโร ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่กว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย และลำคลองน้ำใสสะอาด รวมถึงพันธ์ุไม้ดอกที่ออกดอกอย่างสวยงามตามฤดูกาล โดยแต่ละฤดูนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม เดินเล่น หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ตามความต้องการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
ในฤดูหนาวที่นี่จะเต็มไปด้วยหิมะสีขาวนวลทั่วทุกพื้นที่ของบริเวณ ไม่เว้นแต่บนต้นสนสีเขียวที่หิมะจะเกาะทุกส่วนของใบซึ่งเป็นภาพที่มีความงดงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเป็นอย่างมาก สวนแห่งนี้จัดให้มีการเล่นสกีให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจ ซึ่งมีอุปกรณ์ให้ฟรี เช่นรองเท้าสกีและอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงเนินเขาเพื่อสัมผัสกับการเล่นกีฬาฤดูหนาวเมื่อมาเที่ยวที่นี่นั่นเอง
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปีสวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมากที่สุด เนื่องจากสวนนากาจิมะในฤดูใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เพราะที่นี่มีทุ่งดอกซากูระขนาดใหญ่ซึ่งจะพร้อมกันออกดอกสีชมพูอมขาวเต็มสวน เป็นช่วงที่งดงามในการชมสวนดอกไม้นี้รวมถึงการเก็บภาพสวย ๆ เป็นที่ระลึก โดยที่นี่มีต้นไม้มากขึ้นประมาณ 5000 ต้น ได้แก่ ต้นสนสีแดงของญี่ปุ่่น ต้นยูจิโกะโกะ ต้นซากูระ ต้นเอล์มญี่ปุ่นและต้นวิสทีเรีย โดยเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิน้ำในลำคลองซึ่งเคยจับตัวจนเป็นน้ำแข็งก็จะละลายเผยให้เห็นสายน้ำไส ๆ อีกครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือชมทิวทัศน์ในบริเวณนี้ไปรอบๆ ในราคาไม่แพงมากนักได้อีกด้วย
ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี เมืองซัปโปโรจะมีเทศกาลศาลเจ้าพ่อฮอกไกโดขึ้น ซึ่งเทศกาลจมีงานรอบ ๆ เมืองซัปโปโร รวมถึงสวนสาธารณะนากิจิมะด้วย ซึ่งทางเดินและถนนจะคักคักไปด้วยร้านค้าแผงลอย เครื่องเล่นเกม บ้านคู่รักผีสิง และอื่น ๆ อีกมาก เป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพาเด็ก ๆ และครอบครัวมาเฉลิมฉลองเทศกาล ซึ่งทุกๆปีเทศกาลนี่จะได้รับการตอบรับจากชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกันอย่างคึกคัก
ฤดูใบไม้ร่วงก็เช่นเดียวกับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสัมผัสอากาศบริสุทธ์ การเดินไปรอบ ๆ สวนมองดูใบไม้ร่วงลงพื้น ช่วงนี้เหมาะเป็นอย่างมากในการพาครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนมาปิคนิก ซึ่งจะเห็นว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายมาผ่อนคลายและดื่มด่ำบรรยากาศดี ๆบ้างก็มาวิ่งออกกำลังกาย พร้อมรับแสงแดดอุ่นๆ กันเป็นจำนวนมาก
อาคารโฮไอเคน Hoheikan เป็นอาคารเก่าแก่อึกแห่งหนึ่งของสวนแห่งนี้โดยสร้างขึ้นในปี 1880 ทำหน้าที่เป็นเกสต์เฮาส์และโรงแรม ซึ่ง ณ ปัจจุบันที่นี่จัดที่เป็นที่จัดงานแต่งงาน และจัดเป็นสถานที่แสดงวัฒนธรรมที่สำคัญๆ
สวนญี่ปุ่น (Japanese Garden) เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2506 และเป็นที่ตั้งของบ้านชาฮาซานว์(Hassaon) มีความหมายถึง กระท่อมริมหน้าต่างแปดด้าน บ้านชาได้รับการออกแบบในยุคเอโดะ และถูกย้ายไปที่เมืองซัปโปโรในปี พ.ศ.2462 บ้านชาฮาซานว์ เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมด้านใน แต่สามารถมองเข้าไปในบ้านได้โดยผ่านโซจิ shoji โดยที่นี่จะมีพิธีชงชาหลายครั้งต่อปี ซึ่งหากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.011-531-0029
กิตะระ คอนเสริต ฮอลล์ (Kitara Concert Hall) สวนสาธารณะแห่งนี้มีความพิเศษอีกอย่างนั่นคือที่นี่ไม่ได้เป็นแค่สวนสาธารณะเพื่อการผักผ่อนหย่อนใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีหอการแสดงดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดฮอกไกโดอีกด้วย ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า กิตะระ “Kitara” เปิดให้บริการในปีพ. ศ. 2540 ซึ่งเป็นหอที่มีห้องโถงขนาดใหญ่และห้องโถงขนาดเล็ก รวมถึงห้องซ้อมดนตรี นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ห้องเนอสเซอรี่และพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ถือว่าเป็นสวนสาธารณะที่มีครบถ้วนอย่างแท้จริงที่พลาดไม่ได้ที่จะมาเยี่ยมชมที่นี้กันเลยทีเดียว