พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ (Otaru Aquarium)

ค่าผ่านประตูเด็ก ๆ ¥200
นักเรียนมัธยมปลาย ¥500
ผู้ใหญ่ ¥1400
เวลาเปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์
9:00 – 17:00
วันหยุดทำการอาทิตย์
ติดต่อสอบถาม0134-33-1400
ข้อมูลเพิ่มเติม-
ตำแหน่งที่ตั้ง 3 Chome-303 Shukutsu, Otaru, Hokkaido Prefecture 047-0047, Japan
เดินทางโดยรถไฟจากสถานีซัปโปโรถึงสถานีโอตารุใช้เวลา 40 นาที หลังจากนั้นเดินทางต่อโดยรสบัสใช้เวลาอีก 20 นาที ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ

โอตารุเป็นเมืองท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ โดยอยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรโดยใช้เวลาการเดินทางโดยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองโอตารุเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ อาหารทะเล การเป๋ากระจก และลำคลองที่มีความสวยงาม อีกทั้งเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดฮอกไกโด บางส่วนของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุเป็นตึกเก่าแก่ซึ่งสร้างมาอย่างยาวนาน โดยบางพื้นที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี 2502 
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ได้รวบรวมสัตว์น้ำทะเลหลายชนิดที่หาดูได้ยากเป็นจำนวนมากถึง 5000 ชนิด จาก 250 สายพันธุ์  ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดของที่นี่ นั่นคือการได้ชมปลาสายพันธุ์หายากของจังหวัดฮอกไกโดหรือแม้แต่สัตว์น้ำหายากที่อาศัยอยู่ในแถบขั่วโลกเหนือ รวมถึงนักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงที่แสนรู้ของปลาโลมา ซึ่งมีการจัดแสดงเป็นรอบ ๆ ได้ที่นี่ที่เดียวในประเทศญีปุ่นอีกด้วย 

ในแต่ละวันของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ จะมีการแสดงโชว์ความแสนรู้ของเหล่าสัตว์น้อยน่ารักเหล่านี้เกือบทั้งวัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปรอบ ๆ พร้อมๆ กับใบนำทางท่องเที่ยวซึ่งสามารถหยิบได้ที่เคาร์เตอร์ซื้อตั๋วเข้าชม โดยทั้งหมดจะแสดงเวลาในการโชว์รอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์ความแสนรู้ของนกแพนกวิน การแสดงของปลาโลมา สิงโตทะเล แมวน้ำ และ สัตว์แสนรู้อื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะมีวิทยาการที่มีความรู้คอยบรรยายความน่ารักและความแสนรู้ของพวกมันอย่างใกล้ชิด โดยแต่ละรอบจะมีการแสดงที่ใช้เวลายาวนานพอสมควร ซึ่งเวลาทั้งหมดของการโชว์จะเทียบเท่ากับการเดินชมไปรอบพิพิธภัณฑ์เกือบทั้งวัน ซึ่งทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปท่องเที่ยวดูสัตว์น้ำน่ารักเหล่านี้  ควรจะเดินทางไปตั้งแต่เช้า เพื่อไม่ให้พลาดการโชว์ที่แสนพิเศษ

The Penguin Walk  (การแสดงโชว์ของนกแพนกวิน) 
การเดินโชว์ของนกแพนกวิน ถือได้ว่าเป็นอะไรที่เรียกร้องความสนใจของนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมความน่ารักของพวกมันอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว

การแสดงโชว์ของช้างน้ำ (Walrus Feeding) 
การแสดงโชว์อีกอย่างที่เรียกความสนใจได้ไม่แพ้กัน นั่นคือการให้อาหารครอบครัวช้างน้ำขนาดไหญ่ ที่มีพ่อ แม่ และลูกช้างน้ำ ซึ่งลูกช้างน้ำเป็นวัยกำลังน่ารักและแสนซน ช้างน้ำตัวผู้และช้างน้ำตัวเมียคู่นี้จะน่าสนใจมากเพราะ สามารถเข้าใจภาษาพูดบางอย่างและทำตามคำสั่งของวิทยากรหรือผู้ฝึกสอนได้อีกด้วย โดยเมื่อช้างน้ำทั้งหมดกินอาหารจนอิ่มแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปคู่ผ่านกระจกที่สามารถมองเห็นเคี้ยวและลำตัวที่มีขนาดใหญ่เหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิดอีกเช่นกัน


การแสดงโชว์ของปลาโลมา (Dolphin Show) 
ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสสัมผัสการแสดงโชว์ที่หาดูได้ยากจากปลาโลมากับผุู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์การกระโดดข้ามห่วงที่เรียกความเฮฮาเป็นอย่างมากจากผู้ชม และการโชว์อื่น ๆ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก นอกเหนือจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปชั้นล่างของสระขนาดใหญ่ ซึ่งมุมนี้ลูกค้าสามารถชื่นชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และดูการแหวกว่ายแล่นน้ำของปลาโลมาหลาย ๆ ตัวอย่างไกล้ชิดอีกด้วย 

Feeding time.

การแสดงโชว์ของสิงโตทะเล และแมวน้ำ  Sea Lion&Seal show 
จะเป็นการแสดงที่คล้าย ๆ กับการโชว์สัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ซื่อได้แก่  การโชว์การกระโดดน้ำจากที่สูง การนั่งบนเก้าอี้ และการปรบมือพร้อม ๆ กัน เป็นต้น 

วิธีการเดินทาง: สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่ไม่มียานพานะเป็นของตนเอง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางง่ายๆและแสนสะดวกด้วยรถไฟฟ้าสาธารณะไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ  โดยสามารถขึ้นรถไฟจากสถานีซัปโปโรตรงไปยังสถานีโอตารุได้เลย โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที ซึ่งสถานีโอตารุจะเป็นสาถานีสุดท้ายของขบวนรถไฟสายนี้ หลังจากนั้นจะมีรถบัสที่จะนำนักท่องเที่ยวทุกท่านไปยังพิพิธภัณฑ์ซึ่งรอรับลูกค้าอยู่เป็นประจำทุกวัน โดยทั้งนี้ลูกค้าจะต้องจ่ายเงินเป็นเงินเยนเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย ใช้เวลาเดินทางชมเมืองนี้ข้างทางอย่างชิว ๆ ไปอีกประมาณ 20 นาทีก็จะถึงพิพิธภัณท์ที่กว้างขวาง และท้องทะเลสีครามอยู่เบื้องหน้า ที่สามารถสูดลมหายใจเอาบรรยากาศดี ๆ ได้ลึกๆ  พร้อมกับเจ้าหน้าประจำพิพิธภัณฑ์ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ว่าแล้วรออะไรอีกละ พาลูกหลาน ครอบครัวและคนที่เรารัก ไปท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์โอตารุกันอีกแห่งเลยดีกว่า !!

ร้าน โยโดบาชิ คาเมร่า (Yodobashi Camera)

ค่าผ่านประตู
เวลาเปิดทำการ9:30 – 22:00
วันหยุดทำการ
ติดต่อสอบถาม
ข้อมูลเพิ่มเติมForeign Language Ability:
Good.
English ability from some staff.
Thai, Chinese, English, & Russian announcements.
ตำแหน่งที่ตั้ง 5-1-22, North 6 jyo nishi, North Ward.
(Next to Sapporo station)

โยโดบาชิ คาเมร่า (Yodobashi Camera) เป็นร้านที่มีเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งหมด 21 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2503  โดยมีร้านโยโดบาชิคาเมร่า เป็นหนึ่งในสองร้านค้าซึ่งจำหน่ายสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในสองร้านค้าในเมืองซัปโปโร  ห้างร้านมีขนาดใหญ่พอสมควรประกอบไปด้วย 3 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะครอบคลุมสินค้าหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน

โทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เครื่องสื่อสาร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความบรรเทิง และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับลูกค้าที่ต้องการหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตใหม่ล่าสุด ลูกค้าสามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีก ได้แก่กล้องดิจิตอล กล้องสะท้อนภาพเดียว เครื่องสำอางแบรนด์ต่าง ๆ นาฬิกา รวมถึงกระเป๋าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น  และทางร้านยังมีบริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการช๊อปปิ้งที่นี่จะต้องชื่นชอบ นั่นก็คือ ห้างร้านมีบริการซื้อสินค้าแบบฟรีภาษี พร้อมยังมีพนักงานให้บริการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษคอยให้บริการลูกค้าอยู่อย่างเต็มใจและเต็มความสามารถอยู่ที่นี่  เพื่อให้ลูกค้าที่มาเลือกซื้อสินค้าได้เพลิดเพลินกับการการช๊อปปิ้งอย่างแท้จริง โดยทั้งนี้จะแบ่งประเภทสินค้าของแต่ละชั้นเพื่อความสะดวกสบายโดยเริ่มจาก

ชั้นที่ 1  ชั้นนี้จะรวบรวมสินค้าประเภทโทรศัพท์สมาร์ท ซิมการ์ด คอมพิวเตอร์ ทั้งที่เป็น MAC และ WINDOWS จอภาพ  ฮาร์ดไดรฟ์   การ์ดหน่วยความจำ  เราเตอร์  เครื่องพิมพ์  หมึกพิมพ์  กระดาษพิมพ์ลามิเนต  แป้นพิมพ์กระเป๋าคอมพิวเตอร์ รวมถึงสายเคเบิ้ล  และอื่น ๆ

ชั้นที่ 2 ชั้นนี้จะรวบรวมสินค้าประเภท ทีวี  กล้อง  ขาตั้ง  การ์ด SD   อุปกรณ์ถ่ายภาพ   นาฬิกา   ปลั๊กไฟ   หม้อแปลง  อะแดปเตอร์ที่ใช้ในประเทศ อุปกรณ์เครื่องเสียง หูฟัง  IPODS  กระเป๋าเดินทาง สินค้าสำหรับการเดินทางอื่นๆ 

ชั้นที่ 3  ชั้นนี้จะประกอบไปด้วยสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ อาทิเช่น ตู้เย็น
เครื่องซักผ้า  เครื่องดูดฝุ่น เครื่องใช้ในห้องน้ำ  เครื่องเล่นวิดีโอเกม   เครื่องเล่นดีวีดี   ไฟแช็ค  เพลต
เครื่องใช้ในครัวเรือน  ไมโครเวฟ  เตา   หม้อหุงข้าว เป็นต้น 

[the_ad id=’4264′]

จุดที่น่าสนใจชั้น 1 ของร้านโยโดบาชิ คาเมร่า (Yodobashi Camera) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบเราเรา ที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการติดต่อสารทางโลกโซเชียลตลอดเวลา จะต้องกำลังมองหานั่นก็คือ
ซิมการ์ดที่คุณสามารถซื่้อหา และใช้บริการได้ตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์จนถึงหนึ่งเดือน หรือจะเป็นการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนดี ๆ สักเครื่องได้ที่นี่ที่เดียวกัน โดยสามารถซื่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกับบริษัทรายใหญ่ซึ่งมีชื่อเสียงในญี่ปุ่นได้ถึง 3 แห่ง ซึ่งมาเปิดบริการรวมกันอยู่ที่นี่ นั่นคือ AU, DOCOMO, และ SOFTBANK  โดยทั้งนี้ลูกค้าจะต้องนำหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ มาแสดงด้วย ค่าใช้จ่ายในการซื้อบัตรซิมการ์ดจะเริ่มต้นตั้งแต่ 3000 ถึง 5000 เยน  นอกจากนี้สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์คุณภาพด้านคอมพิวเตอร์ ทางด้านหลังของชั้นนี้ก็ยังได้รวบรวมฮาร์ดดิสก์หน่วยความจำระดับคุณภาพและสิ่งอื่น ๆ ที่คุณต้องการสำหรับคอมพิวเตอร์ไว้อีกเพียบเลยทีเดียว

จุดที่น่าสนใจของชั้นที่ 2 หากคุณกำลังมองหาตัวแปลงไฟฟ้า และตัวแปลงซ็อกเก็ตสำหรับใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศแล้วละก็ ชั้นนี้ จะรวบรวมสินค้าเหล่านี้ไว้ โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นชาวไทยอย่างเราเราที่เดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ผลิตในประเทศไทยจะใช้กำลังไฟฟ้า (วัตต์) ไม่เท่ากัน ดังนั้นที่นี่จะเป็นชั้นที่อาจจะต้องเดินทางไปซื้อหาตัวแปลงไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำไปจากประเทศไทย ซึ่งบางคนอาจจะหอบหิ้ว เครื่องเป่าผม หรือเตารีดเล็ก ๆ ไป หรือ สำหรับบางคนที่ต้องการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางอย่างจากประเทศญี่ปุ่นกับมาใช้ที่บ้านเรา ลูกค้าจำเป็นอย่างยิ่่งที่จะต้องซื้อตัวแแปลงไฟฟ้าด้วย นอกจากนี้ชั้นนี้ลูกค้ายังสามารถซื้อเครื่องแปลงสัญญานสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นที่ใช้กับทุกภูมิภาคทั่วโลก ในส่วนของกล้องถ่ายรูป ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเลือกหา การ์ด SD ที่มีคุณภาพและหลากหลายแบรนด์ได้ที่นี่เช่นกัน

จุดที่น่าสนใจของชั้นที่ 3  ชั้นนี้มีบริการเคาร์เตอร์ปลอดภาษีสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าของทางร้าน โดยลูกค้าจะต้องนำหนังสือเดินทางไปติดต่อด้วย 

สวนสาธารนะ นากาจิมะ (Nakajima Park )

สวนสาธารณะนากาจิมะแต่เดิมนั้นเคยเป็นลานไม้กว้าง ซึ่งเมื่อชาวบ้านหยุดใช้ลานไม้แล้ว ต่างก็มีความคิดเห็นว่าน่าจะสร้างเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้เป็นที่ผักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านในแถบนี้  สวนสาธารณะนากาจิมะ จึงได้เกิดขึ้นนั่นเอง โดยมีการสร้างสวนแห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ.2430 ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแกอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดฮอกไกโด โดยมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 21 เฮกตาร์ นากาจิมะเป็นสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองซัปโปโร ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่กว้างขวางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย และลำคลองน้ำใสสะอาด รวมถึงพันธ์ุไม้ดอกที่ออกดอกอย่างสวยงามตามฤดูกาล โดยแต่ละฤดูนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม เดินเล่น หรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ตามความต้องการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

ในฤดูหนาวที่นี่จะเต็มไปด้วยหิมะสีขาวนวลทั่วทุกพื้นที่ของบริเวณ ไม่เว้นแต่บนต้นสนสีเขียวที่หิมะจะเกาะทุกส่วนของใบซึ่งเป็นภาพที่มีความงดงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเป็นอย่างมาก สวนแห่งนี้จัดให้มีการเล่นสกีให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจ ซึ่งมีอุปกรณ์ให้ฟรี เช่นรองเท้าสกีและอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น โดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงเนินเขาเพื่อสัมผัสกับการเล่นกีฬาฤดูหนาวเมื่อมาเที่ยวที่นี่นั่นเอง 

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปีสวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมากที่สุด เนื่องจากสวนนากาจิมะในฤดูใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เพราะที่นี่มีทุ่งดอกซากูระขนาดใหญ่ซึ่งจะพร้อมกันออกดอกสีชมพูอมขาวเต็มสวน เป็นช่วงที่งดงามในการชมสวนดอกไม้นี้รวมถึงการเก็บภาพสวย ๆ เป็นที่ระลึก โดยที่นี่มีต้นไม้มากขึ้นประมาณ 5000 ต้น ได้แก่ ต้นสนสีแดงของญี่ปุ่่น ต้นยูจิโกะโกะ ต้นซากูระ  ต้นเอล์มญี่ปุ่นและต้นวิสทีเรีย โดยเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิน้ำในลำคลองซึ่งเคยจับตัวจนเป็นน้ำแข็งก็จะละลายเผยให้เห็นสายน้ำไส ๆ อีกครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือชมทิวทัศน์ในบริเวณนี้ไปรอบๆ ในราคาไม่แพงมากนักได้อีกด้วย

ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี เมืองซัปโปโรจะมีเทศกาลศาลเจ้าพ่อฮอกไกโดขึ้น ซึ่งเทศกาลจมีงานรอบ ๆ เมืองซัปโปโร  รวมถึงสวนสาธารณะนากิจิมะด้วย ซึ่งทางเดินและถนนจะคักคักไปด้วยร้านค้าแผงลอย เครื่องเล่นเกม  บ้านคู่รักผีสิง และอื่น ๆ อีกมาก เป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพาเด็ก ๆ และครอบครัวมาเฉลิมฉลองเทศกาล ซึ่งทุกๆปีเทศกาลนี่จะได้รับการตอบรับจากชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกันอย่างคึกคัก 

ฤดูใบไม้ร่วงก็เช่นเดียวกับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสัมผัสอากาศบริสุทธ์ การเดินไปรอบ ๆ สวนมองดูใบไม้ร่วงลงพื้น ช่วงนี้เหมาะเป็นอย่างมากในการพาครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนมาปิคนิก ซึ่งจะเห็นว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายมาผ่อนคลายและดื่มด่ำบรรยากาศดี  ๆบ้างก็มาวิ่งออกกำลังกาย พร้อมรับแสงแดดอุ่นๆ กันเป็นจำนวนมาก

Popular spots for weddings

อาคารโฮไอเคน  Hoheikan เป็นอาคารเก่าแก่อึกแห่งหนึ่งของสวนแห่งนี้โดยสร้างขึ้นในปี 1880 ทำหน้าที่เป็นเกสต์เฮาส์และโรงแรม  ซึ่ง ณ ปัจจุบันที่นี่จัดที่เป็นที่จัดงานแต่งงาน และจัดเป็นสถานที่แสดงวัฒนธรรมที่สำคัญๆ

Sapporo

Found in the Japanese gardens

สวนญี่ปุ่น  (Japanese Garden)  เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2506 และเป็นที่ตั้งของบ้านชาฮาซานว์(Hassaon)   มีความหมายถึง กระท่อมริมหน้าต่างแปดด้าน บ้านชาได้รับการออกแบบในยุคเอโดะ และถูกย้ายไปที่เมืองซัปโปโรในปี พ.ศ.2462 บ้านชาฮาซานว์ เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมด้านใน แต่สามารถมองเข้าไปในบ้านได้โดยผ่านโซจิ shoji  โดยที่นี่จะมีพิธีชงชาหลายครั้งต่อปี ซึ่งหากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.011-531-0029 

One of the top concert halls in Sapporo

กิตะระ คอนเสริต ฮอลล์  (Kitara Concert Hall)  สวนสาธารณะแห่งนี้มีความพิเศษอีกอย่างนั่นคือที่นี่ไม่ได้เป็นแค่สวนสาธารณะเพื่อการผักผ่อนหย่อนใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีหอการแสดงดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดฮอกไกโดอีกด้วย ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า กิตะระ “Kitara” เปิดให้บริการในปีพ. ศ. 2540 ซึ่งเป็นหอที่มีห้องโถงขนาดใหญ่และห้องโถงขนาดเล็ก รวมถึงห้องซ้อมดนตรี นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ห้องเนอสเซอรี่และพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ถือว่าเป็นสวนสาธารณะที่มีครบถ้วนอย่างแท้จริงที่พลาดไม่ได้ที่จะมาเยี่ยมชมที่นี้กันเลยทีเดียว

ค๊อซทโกซุปเปอร์มาเก็ต (Costco)

ค่าผ่านประตู
เวลาเปิดทำการ10:00 – 20:00 ทุกวัน

วันหยุดทำการ
ติดต่อสอบถาม
ข้อมูลเพิ่มเติมวันหยุดสุดสัปดาห์จะคราคลั่งไปด้วยผู้คนจำนวนมาก
จำเป็นต้องเป็นสมาชิก
จำเป็นจะต้องมีรถส่วนตัวไปที่นั้น
ตำแหน่งที่ตั้ง9-3-1 Utsukushigaoka Ichijo, Kiyota-ku, Sapporo City, Hokkaido


Costco เป็นเสมือนคลังอาหารในรูปแบบของซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ที่รวบรวมอาหารทุกอย่างในราคาที่ถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับซุปเปอร์มาเก็ตอื่น ๆ รวมถึงสินค้าประเภทอื่นๆ  ที่จำเป็น โดยหากลูกค้าท่านใดต้องการเปิดร้านอาหารแล้วละก็ คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปซื้อหาสินค้าที่ต้องการในหลาย ๆ ที่ให้เสียเวลาเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่ได้รวบรวมสินค้าเหล่านี้ไว้ครบครันอยู่แล้ว ด้วยราคาที่แสนถูกและคุณภาพที่คุ้มค่า Costco จะเน้นสินค้าประเภทอาหารซึ่งได้แก่ผักและผลไม้ต่างๆที่มีอยู่ตามฤดูกาล ส่วนเนื้อก็จะมีเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ  ทั้งประเภทแช่แข็งและไม่แช่แข็ง โดยเฉพาะเนื้อสเต็กที่ที่นี่เป็นที่นิยมซื้อหากันเป็นจำนวนมาก เพราะมีขนาดและปริมาณที่ใหญ่ในราคาถูก ซึ่งหาได้ยากมากในซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปในญี่ปุ่น  นอกจากนี้ยังมีไก่ย่างที่พ่อครัวของที่นี่ย่างกันสด ๆ กันเป็นรายชั๋วโมงเพื่อความสดใหม่ และรสชาติที่อร่อย รวมถึงขนาดที่ใหญ่เหมาะสำหรับรับประทานทั้งครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนในงานปาร์ตี้ต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกค้าจ่ายเพียง 800 เยน เท่านั้น  ยังไม่หมดเท่านี้เพราะที่นี่ยังมีอาหารประเภท ไส้กรอก อาหารแช่แข็ง อื่น ๆ นมชีส ชีสชนิดต่าง ๆ อาหารทะเล พิซซ่าขนาดใหญ่ ซูซิพาเลท  กาแฟ ธัญพืช เครื่องปรุงรส ช๊อคโกแลต พาสต้าซอส น้ำผลไม้ ไวน์จากทั่วมุมโลก เบียร์ สุรา และอื่น ๆ ให้เลือกอีกเพียบ ทุกอย่างเป็นสินค้าที่หาซื้อได้เป็นแพคหรือปริมาณขนาดใหญ่ สำหรับครอบครัวหรือผู้บริโภคที่ต้องการซื้อในปริมาณมากหรือใช้ในร้านอาหาร หรืองานสังสรรค์ปาร์ตี้ต่างๆ หรือสำหรับครอบครัวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการซื้อของในปริมาณที่มากไปกักตุนไว้เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี 

A lot of stock!


แต่สำหรับ Costco หรือจะมีแค่เฉพาะอาหาร อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่ามาที่นี่ที่เดียวคุณก็กลับบ้านไปพร้อม ๆ กับทุกอย่างที่คุณต้องการได้ เพราะที่นี่ยังมีสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่จำเป็นอีก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ยา เครื่องใช้ในห้องน้ำ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าฮาร์ดแวร์ เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง เสื้อผ้าราคาถูก อุปกรณ์การเรียนในโรงเรียน อุปกรณ์เครื่องเล่นกีฬา อุปกรณ์เสริม   อุปกรณ์ทำความสะอาด สิ่งของเครื่องใช้เบ็ตเตล็ด   ที่นี่ก็ได้จัดสรรค์ไว้ให้ลูกค้าครบครันและที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของราคาที่ต้องย้ำกันว่าถูกแสนถูก 

และถ้าหากคุณเป็นนักช๊อปครั้งแรก คุณจะต้องทำบัตรสมาชิกรายปี ซึ่งบัตรสมาชิกมีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่สมาชิกระดับ Gold Star โดยคุณจะต้องเสียค่าทำบัตรสมาชิกประเภทนี้อยู่ที่ 4000 เยน ประเภทที่สองคือ สมาชิกธุรกิจ ค่าใช้จ่ายในการทำบัตรประเภทนี้อยู่ที่ 3500 เยน ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อสิทธิและผลประโยชน์หรือโปรโมชั่นที่คุ้มค่าของคุณ และสำหรับสมาชิกรายปีนั้น มีเงื่อนไขอีกว่าจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และเมื่อคุณเป็นสมาชิกแล้ว คุณสามารถใช้บัตรสมาชิกของคุณได้ทุกที่ในโลกที่ใดก็ได้ที่มีร้าน Costco รวมถึงคุณสามารถพาเพื่อนๆ ของคุณมาช๊อปปิ้งที่นี้โดยใช้บัตรสามาชิกของคุณได้เพิ่มอีกถึงสองคน โดยสามารถดูรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต่างๆ รวมถึงโปรโมชั่นต่ต่างๆ  ได้ทางเวปไซต์อีกด้วย 

Prowling the isles


สำหรัุบการเดินทางไปยังร้าน Costco ก็ไม่ยากอย่างที่คิดสำหรับผู้ที่มียานพาหนะส่วนตัวก็อาจสะดวกหน่อย แต่สำหรับผู้ที่เดินทางโดยยานพาหนะสาธารณะแล้วละก็ คุณสามารถเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะโดยเส้นทางรถไฟใต้ดิน Toho (สายสีน้ำเงิน) ไปยังสถานี ฟูกุซูมิ (Fukuzumi) จากนั้นข้ามถนนแล้วใช้การโดยสารโดยรสบัสหมายเลข 8 โดยใช้เส้นทางฟูกุ 97 ( Fuku 97 ) หรือ 96 ลงรถบัสที่โรงเรียนประถมซานริซูกะ จากนั้นเดินไปอีก 3 นาที ก็จะถึง Costcoซุปเปอร์มาเก็ต  แต่เพี่อความสะดวกสบายในการเดินทางและสำหรับการซื้อของในปริมาณมาก แนะนำให้ใช้ยานพาหนะส่วนตัวจะเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากกว่า โดยใช้การเดินทางแค่ 40 นาที จากใจกลางเมืองไปตามเส้นทางที่ 36 คุณก็จะเจอกับ Costco ซุปเปอร์มาเก็ตซึ่งเป็นตึกใหญ่อยู่ทางขวามือนั่นเอง