ผู้เขียน:
ภูเขาแห่งเมืองซัปโปโร Sapporo Dake (MT Sapporo)
สูง | 1293 เมตร / 4114 ฟุต |
ระยะทาง | ไปและกลับ 11กิโลเมตร |
เวลาเดินป่า | ฤดูหนาว - ใช้เวลาในการเดินทางขึ้นถึงยอดเขาประมาณ4ชั่วโมง ฤดูร้อน - ใช้เวลาในการเดินทางขึ้นถึงยอดเขาประมาณ3ชั่วโมง |
ข้อมูลเพิ่มเติม | จำเป็นจะต้องมีรถส่วนตัวไปที่นั้น มีกระท่อมที่สามารถเข้าพักได้ฟรี |
ตำแหน่งที่ตั้ง | Sapporo-dake, Jozankei, Minami Ward, Sapporo, Hokkaido Prefecture 061-2301 ใช้เส้นทาง 230 ผ่านโจเซนไกจากนั้นเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้าสู่น้ำพุร้อนโฮไฮเกียว |
และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รักในสิ่งนี้แล้วละก็ คุณต้องไม่พลาดที่จะเดินทางไปที่นี่ Sapporo Dake หรือ MT Sapporo ซึ่งที่นี่คุณจะได้ชมทัศนีภาพที่แสนงดงามเกินคำบรรยายแน่นอน ด้วยความสูงของยอดเขา 1,293 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยคุณสามารชมความงามได้รอบๆ ทิศ ซึ่งมีมุมหนึ่งที่เป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นั่นก็คือทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟซึ่งดับไปเมื่อหลายปีมาแล้วที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนในช่วงฤดูหนาว หรือแม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ต้นไม้มากมายกำลังเปลี่ยนสีต่างๆ ที่แน่นอนว่าต้องสวยงามละลานตามากทีเดียว
ภูเขาโยเตะ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการเดินป่า ภูเขาลูกนี้มีความสูงปานกลาง โดยในการเดินขึ้นไปชมยังจุดสูงสุดของภูเขาลูกนี้ในช่วงฤดูหนาวจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงโดยนักท่องเที่ยวจะต้องสวมใส่รองเท้าเดินหิมะและเสื้อผ้าที่เหมาะสมพร้อมอาหารและน้ำ เนื่องจากอากาศจะหนาวเย็นถึงระดับติดลบ และใช้เวลาประมาณ3 ชั่วโมงในช่วงฤดูร้อน มีระยะทางประมาณ 6 กม. จากจุดเริ่มต้นของการเดินป่า โดยทั้งนี้คุณจะต้องมีรถส่วนตัวเพื่อเข้าไปถึงจุดที่กำหนดให้เดินป่าเท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถดูจากแผนที่ซึ่งได้เตรียมเอาไว้ข้างล่างนี้แล้ว
การเดินป่าสามารถทำได้ในหนึ่งวัน แต่ถ้าคุณกำลังมองหาทริปการเดินป่าที่สามารถค้างคืนได้ ที่นี่ยังมีกระท่อมรองรับให้พักค้างคืน โดยกระท่อมจะมีลักษณะเป็น 2 ชั้น ประดับประดาด้วยเตาผิงไฟเพื่อไล่ความหนาวเย็นในยามค่ำคืน ซึ่งบนภูเขาสูงของ
เมืองซัปโปโรอาจมีความหนาวเย็นอยู่ตลอดเวลาไม่เว้นแม้ในแต่ในช่วงฤดูร้อน ทั้งนี้ยังมีห้องครัวเล็ก ๆ พร้อมถ้วยชาม มีดทำอาหาร โต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ รวมถึงโคมไฟน้ำมันก๊าซ เพื่อการประกอบอาหารและใช้สอย กระท่อมแห่งนี้ถูกล๊อคในบางครั้ง
โดยมีชื่อเรียกว่า “ไฮยามิซุ ฮัท” ได้รับการดูแลโดยชาวบ้านในท้องถิ่นและมีการเก็บฟืนไว้อย่างต่อเนื่อง และหากคุณพักที่กระท่อมแห่งนี้ ก่อนจากไปคุณจะต้องแน่ใจก่อนว่าทุกอย่างได้รับการทำความสะอาดและถูกเก็บไว้เป็นที่เรียบร้อยตามเดิม นั่นก็เพื่อความสะดวกของนักเดินทางคนถัดไป และที่สำคัญที่คุณจะต้องประหลาดใจนั่นคือคุณสามารถพักที่นี่ได้ฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่เยนเดียว
และที่พิเศษไปกว่านั้น สำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบการตื่นเช้าเพื่อพบกับวันใหม่ ซึ่งนั่นก็หมายถึงการได้ชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้นที่แสนงดงามสำหรับวันที่อากาศแจ่มใสแล้วละก็ คุณควรไม่พลาดที่จะต้องตื่นขึ้นในเวลา 3:30 น.เพื่อที่จะลุกขึ้นจากที่นอนและลาจากกระท่อมน้อยหลังนี้เพื่อขับรถของคุณไปยังสถานที่ที่คุณสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงามโดยใช้เวลาขับรถไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงจากเมืองซัปโปโร เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 230 โดยขับเรื่อย ๆ ไปตามป้ายบอกทางไปยังเขื่อน โฮไฮเกียว (Hoheikyo) ก่อนที่จะถึงที่จอดรถของเขื่อนคุณจะเห็นป้ายบอกทาง The Sapporo Dake ทางด้านซ้ายมือและที่นี่คือจุดชมวิว สำหรับในช่วงฤดูหนาวคุณจำเป็นจะต้องมีรองเท้าเดินหิมะและเสื้อผ้าที่เหมาะสม เพราะจะมีหิมะหนาแน่นมาก โดยหากนักท่องเที่ยวสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์การเดินป่าที่ละเอียดขึ้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Shugakusou Outdoor.
หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)
ค่าผ่านประตู | ผู้ใหญ่ ¥200 |
เวลาเปิดทำการ | 9:00- 17:00 ทุกวัน |
วันหยุดทำการ | มกราคม 1st - มกราคม 3rd |
ติดต่อสอบถาม | 011-231-0838 |
ข้อมูลเพิ่มเติม | - |
ตำแหน่งที่ตั้ง | Japan, 〒060-0001 Hokkaidō, Sapporo-shi, Chūō-ku, Kita 1 Jōnishi, 2 Chome 札幌市時計台 |
หอนาฬิกาซัปโปโรตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองซัปโปโรในพื้นที่สวนธารณะออโดริ (Odori park) โดยหอนาฬิกานี้ถูกสร้างขึ้นมาในปี 1878 และได้มีการพัฒนาและเริ่มสร้างในช่วงปลายทศวรรษที่ 1860 ซึ่งทำให้หอนาฬิกาแห่งนี้ชื่อได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองซัปโปโร โดยผู้ที่ริเริ่มแนวคิดในการก่อตั้งหอนาฬิกาแห่งนี้ก็คือ ดร.จอห์น คลาร์ก ซึ่งเป็นรองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเกษตรซัปโปโรในเวลานั้น โดยหอคอยแห่งนี้ได้รับการออกแบบในสไตส์อเมริกัน โดยการสร้างเป็นห้องโถงเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกร่างกายและการฝึกทหาร และนอกจากนี้ที่นี่ยังใช้เป็นห้องโถงสำหรับสัมมนาต่างๆ อีกด้วย
[the_ad id=’4264′]
ในปัจจุบันหอนาฬิกาแห่งนี้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายและข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเกษตรในเมืองซัปโปโร และการพัฒนาของเมืองจากสมัยเริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน โดยถ้าหากเดินเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์นี้แห่งจะเห็นว่าจะมีการแบ่งห้องต่าง ๆ ออกเป็นห้องเพื่อใช้จัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณที่หาชมได้ยาก หรือ การแสดงข้อมูลต่างๆ ที่นี่จึงเปรียบเสมือนหัวใจของเมืองซัปโปโรที่นักท่องเที่ยวมาที่นี่แล้วไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปชมเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและความเป็นมาของเมืองที่น่าสนใจนี้ได้ที่นี่ที่เดียวเลย เนื่องจากหอนาฬิกาซัปโปโรเป็นเหมือนไอคอนสำคัญของเมืองซัปโปโร จึงทำให้ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือชาวญี่ปุ่นเองเดินทางมาเยี่ยมชม พร้อมการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอย่างมากมาย
โดยทั้งนี้ในปีพ.ศ.2513 หอนาฬิกาซัปโปโรถูกยกให้เป็น ทรัพย์สินทางวัฒนธรรม
(Cultural Cultural Property) และได้รับการรับรองว่าเป็นมรดกทางวิศวกรรมเครื่องกล ‘Mechanical Engineering Heritage’ ของญี่ปุ่นในปีพ. ศ.2552
โมดิสซ์ คาเฟ่ (Modish Cafe)
ราคา | ¥1000 - ¥2000 |
เวลาเปิดทำการ | 6:30 - 23:00 |
วันหยุดทำการ | - |
ติดต่อสอบถาม | 011-208-0057 |
ข้อมูลเพิ่มเติม | ไม่มี WiFi พื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ |
ตำแหน่งที่ตั้ง | Located in Tanukikoji Arcade 4-4-1 Minami 2 Jonishi Chuo-ku Sapporo Hokkaido 北海道 札幌市中央区 南二条西 4-4-1 リッチモンドホテル 1F |
Modish cafe เป็นร้านอาหารสไตส์ตะวันตกที่แสนอร่อยและราคาที่ย่อมเยาว์ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีความพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ต้องการสังสรรค์ด้วยสไตส์บุปเฟ่ต์ ซึ่งมีที่นั่งรองรับได้มากถึง 72 คน อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับลูกค้าที่ต้องการสูบบุหรี่แยกไว้เป็นส่วนเพื่อความสะดวกอีกด้วย
สำหรับเมนูอาหารของที่นี่จะเป็นสไตส์ตะวันตกในรูปแบบของบาร์และกริล (Bar & Grill )ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารประเภทพาสต้า พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ สเต็ก ซุป และอาหารประเภทสลัด อีกทั้งยังมีชุดอาหารกลางวันและชุดอาหารเย็นชุดใหญ่ไว้บริการ ซึ่งในเซ็ทจะเสริฟพร้อมกับซุป สลัุด และเครื่องดื่มในราคาที่แสนจะโดนใจลูกค้า รวมถึงอาหารสไตส์ปบุฟเฟ่ต์ที่ลูกค้าสามารถเลือกเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นกาแฟ หรือแม้แต่น้าผลไม้ได้ตามสะดวก และแน่นอนว่าราคาไม่แพง และคุ้มค่ากับเมนูอาหารรสเลิศหลากหลายเมนูที่ทางร้านจัดไว้ให้ และด้วยการจัดร้านที่เปิดเป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ ซึ่งลูกค้าสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์รวมถึงผู้คนที่เดินไปมาพร้อมจิบกาแฟ หรือ รับประทานอาหารของคุณไปกับคนพิเศษ หรือเพื่อนของคุณ หรือแม้แต่การใช้เวลาส่วนตัวไปกับมุมร้านดี ๆ และอาหารอร่อยได้ที่นี่ ที่ร้าน Modish cafeที่เดียว
โทนี่ โรม่าส์ (Tony Roma’s)
ราคา | ¥1500 - ¥3500 |
เวลาเปิดทำการ | 11:00 - 23:00 |
วันหยุดทำการ | - |
ติดต่อสอบถาม | 011-206-9222 Tony Roma's Menu |
ข้อมูลเพิ่มเติม | ไม่มี WiFi อยู่ตรงข้ามหอนาฬิกา |
ตำแหน่งที่ตั้ง | Sapporo, Chuo Ward 1-west West 3-chome 3 MN Building 1F |
Sapporo Tony Roma เป็นร้านอาหารซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโ่ลก เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านริบ-สเต็ก (ribs steaks) และเบอร์เกอร์ที่เสริฟพร้อมกับซอสบาร์บิวคิวรสชาติเข้มข้น ประวัติของโทนี่โรม่าส์ มีมายาวนานกว่า 40 ปีแล้ว ซึ่งมีการขยายสาขาขึ้นเรื่อย ๆ จนในปัจจุบันมีร้านอาหารเปิดกระจายอยู่ 30 ประเทศทั่วโลก โดยได้มีการเข้ามาเปิดให้บริการในเมืองซัปโปโรเมื่อไม่นานมานี้
สำหรับรายการอาหารที่เป็นที่นิยมคงหนีไม่พ้น ริบ-สเต็ก(ribs steaks) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อย โดยทั้งนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่รสชาติการันตีได้ว่าอร่อยไม่แพ้กัน รวมถึงบาร์เครื่องดื่มที่อัดแน่นไปด้วยรายการเครื่องดื่มให้ลูกค้าได้สั่งกันอย่างจุใจ พร้อมทำเลที่ตั้งที่หาได้ไม่ยาก เพราะอยู่ติดกับหอนาฬิกาซัปโปโร ซึ่งใครไปเยี่ยมเมืองนี้แล้ว พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
[the_ad id=’4264′]
ลักษณะร้านมีพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถบรรจุคนได้มากถึง 100 คน ทางร้านมีแยกส่วนไว้สำหรับผู้ที่ต้องการสูบบุหรี่ไว้ต่างหาก รวมถึงพื้นที่บาร์ที่คุณสามารถสั่งเบียร์เย็น ๆ เครื่องดื่มค๊อกเทลและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์
มีการใช้ภาพสีขาวดำในการจัดตกแต่งร้านโดยเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาของร้านอาหารซึ่งทำให้ร้านมีจุดเด่นดูมีเสน่ดึงดูดลูกค้าที่ต้องการเข้ามานั่งจิบเบียร์และรับประทานสเต็กรสชาติดี
สำหรับเมนูสตาทเตอร์เรียกน้ำย่อยก็มีมากมายให้เลือกสั่งได้จากเมนูที่มีทั้งภาษาอังกฤษให้คนไทยอย่างเราๆ พอเดาออกบ้าง ไม่ว่าจะเป็น เคสดีย่า (quesadillas) ฮอทบัฟฟาโลวิง,กุ้งค๊อกเทล และอีกหลาย ๆ เมนูให้เลือกสรรอีกมากมาย อีกจานที่ไม่ควรพลาดที่จะลองชิมนั่นคือริบ-สเต็กราดซอสบาร์บิคิวรสชาติดีชิ้นคอมโบ ซึ่งเป็นเมนูที่ขายดิบขายดีและขึ้นชื่อของร้าน ทั้งนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอีกนั่นก็คือ ลูกค้าสามารถเลือกซอสตามที่ชื่นชอบได้ ซึ่งมีให้เลือกเช่น ซอสบาร์บีคิวแบบดั้งเดิม ซอสบูร์บองบาร์บีคิว บลูชีสครัสท์ ซอสทาริยากิ และซอสวาซาบิ แต่ถ้าคุณยังไม่ปราถนาที่จะทานสเต็กในมื้ัอนั้นๆ คุณก็สามารถเปลี่ยนเป็นเมนูเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ที่เสริฟคู่กับกระหล่ำปลีและมันฝรั่งทอดจานใหญ่ก็ไม่เสียหายอะไร
ไม่ใช่แค่อาหารจานเนื้อเท่านั้นที่ Tony Roma’s มีเสริฟให้ลูกค้า เพราะที่นี่ยังจัดอาหารสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลไม่ว่าจะเป็นกุ้งทอดกรอบ หอยเซลล์ กุ้งย่าง หรือแม้แต่เมนูปลาเซลมอนที่ดีต่อสุขภาพ หลังจากเดินเที่ยวชมสถานที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะโอดอริที่ร่มรื่น หรือแม้แต่การไปชมทิวทัศน์ของหอนาฬิการที่ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองซัปโปโรแล้ว ก็อย่าปล่อยให้ท้องว่างหาร้านดี ๆ นั่งทานอาหารรสชาติดีบรรยากาศเยี่ยมที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สะดวกสบายใกล้แหล่งช๊อปปิ้งที่ ร้านอาหาร Tony Roma’s กัน
เทนมะ ซุปกะหรี่ (Soup Curry Tenma)
ราคา | ¥1100 - ¥2000 |
เวลาเปิดทำการ | 10:00 - 23:00 |
วันหยุดทำการ | - |
ติดต่อสอบถาม | 011-209-5100 |
ข้อมูลเพิ่มเติม | - |
ตำแหน่งที่ตั้ง | 〒060-0005 Hokkaido Prefecture, Sapporo, Chuo Ward, 北5条西2丁目 JR Tower Located on the 6th floor of Stellar Place above Sapporo Station |
[the_ad id=’4264′]
ที่เทนมะซุปกะหรี่ มีเมนูต่างๆ ที่ลูกค้าเลือกอร่อยได้หลากหลายในเมนูประเภทแกงกะหรี่ เช่น ไก่กะหรี่ ที่ย่างจนกรอบปรุงในซอสแกงกะหรี่เข้มข้นรสชาติดีเยี่ยม หรือจะเป็นทรีชีสแกงกะหรี่ แกงกะหรี่กีมะ และบัตเตอร์ไก่แกงกะหรี่ ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ ร้านอาหารเทนมะซุปกะหรี่ยังมีเมนูอาหารกลางวันที่จัดเป็นเซ็ทเพื่อให้ลูกค้าสามารถอิ่มหนำสำราญด้วยราคาเบา ๆ ซึ่งในเซ็ทอาหารกลางวันนี้จะเสริฟพร้อมกับซุปกะหรี่ถ้วยใหญ่โดยลูกค้าสามารถเลือกเมนูไก่ หมู หรือทะเลได้ตามความพอใจ เสริฟพร้อมกับเครื่องดื่ม
และถ้าคุณยังไม่อิ่ม ที่นี่ยังมีเมนูของหวานหลากหลายเมนูที่รับรองว่าต้องอร่อยจนติดใจแน่นอนให้ลองชิมกันอีกด้วย
อาคารโฮไฮกัน ( hoheikan building)
ค่าผ่านประตู | 300 เยนต่อคน 270 เยนต่อคน สำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม ตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป Free for junior high school students and younger |
เวลาเปิดทำการ | 9am – 5pm (last admission at 4:30pm) |
วันหยุดทำการ | Every second Tuesday of the month (or the following day if Tuesday falls on a holiday) |
ติดต่อสอบถาม | 011-211-1951 |
ข้อมูลเพิ่มเติม | - |
ตำแหน่งที่ตั้ง | 9 Chome-2-20 Kita 7 Jōhigashi, Higashi-ku, Sapporo-shi, Hokkaidō 065-8518, Japan. Catch a bus from number four station near the north exit of Sapporo Station. |
อาคารโฮไฮกัน (Hoheikan building) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1879 และเปิดใช้งานขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2424 โดยได้เปิดเป็นโรงแรมสำหรับการมาเยี่ยมเยียนเมืองซัปโปโรของจักรพรรดิเมจิ ซึ่งในปัจจุบันจัดเป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ซึ่งภายในตัวอาคารเป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เดิมที่นั้นอาคารแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ที่สวนออโดริ (Odori) แต่ถูกย้ายไปยังสถานที่ของสวนสาธารณะนากิจิมะในปี 1958 อาคารทั้งหมดถูกสร้างและออกแบบให้เป็นสไตส์อเมริกัน แต่ระเบียงและส่วนพื้นที่ด้านหน้าของอาคารถูกสร้างขึ้นในสไตส์ยุโรป สถาปัตยกรรมทั้งหมดสื่อถึงยุคของจักรพรรดิเมจิช่วงต้น และการสร้างอาคารดังกล่าวใช้เทคนิคในการสร้างแบบดั้งเดิมทั้งหมด
อาคารโฮไฮกันถูกปลูกสร้างมาเพื่อใช้เป็นที่พำนักของจักรพรรดิเมจิซึ่งเดินทางมาเยี่ยมชมเมืองซัปโปโรเป็นครั้งคราว โดยภายในจะมีการจัดแสดงวีดีโอเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโฮไฮกัน นอกจากนี้อาคารโฮไฮกันซึ่งเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดยังเป็นที่นิยมในการใช้จัดงานแต่งงานในปัจจุบัน โดยมีร้านอาหารและคาเฟ่ตั้งอยู่ในอาคารซึ่งมีทั้งอาหารประเภทอาหารญี่ปุ่นและฝรั่งเศสบริการสำหรับแขกผู้มาเยี่ยมเยียน